วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ


14 ภาพวาดสะท้อนถึงสังคมในศตวรรษที่ 21 


Jonh Holcroft เขาเป็นที่รู้จักกันดีในนามของนักเขียนการ์ตูนชาวอังกฤษ เขาได้วาดภาพสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมและพฤติกรรมของมนุษย์ในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นไปในเรื่องของมนุษย์สมัยใหม่มักพึ่งพาเทคโนโลยีมากกว่าสิ่งอื่น ทำให้มนุษย์นั้นเกิดความโลภและทำให้คุณค่าของมนุษย์นั้นถูกบั้นถอนลง จนสังคมอาจมองว่าภาพของเขานั้นเป็นการเสียดสีสังคมยุคใหม่ และผู้เขียนได้แทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพต่างๆมาเป็นเกร็ดความรู้ทั้งด้านทางโลกและทางธรรมให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

1. LIKE ยิ่งมาก EGO ยิ่งสูง

satiric-illustrations-john-holcroft-1

มาทำความรู้จักกับ EGO กันเถอะ!

EGO เป็นหนึ่งในทฤษฎีบุคลิกภาพของ ซิกมัน ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาแบบจิตวิเคราะห์ คิดค้นทฤษฏีจิตวิเคราะห์กล่าวว่าโครงสร้างบุคคลิภาพนั้นเป็นพลังแสวงหาความสุข (Pleasure Ceeking Prenciple) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความต้องการต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงความดีงาม และสิ่งเหล่านี้ได้ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด จิตของมนุษย์จึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน Id, Ego และ Super Ego เป็นพลังผลักดันให้บุคคลมีพฤติกรรมต่างกัน แต่เราจะมาทำวามรู้จักกับคำว่า “EGO” กัน EGO หรือที่ใครหลายๆคนมักใช่พูดกันว่า “เขาเป็นคน Ego สูง” กันดีกว่า
EGO เป็นพลังแห่งการรับรู้ความเข้าใจ รู้ข้อเท็จจริงว่าอะไรดีหรือไม่ดี พลังของอีโก้จะทำให้เรานั้นบรรลุเป้าหมายที่ตนเองได้ตั้งไว้ เพื่อตอบสนองต่อความสุข อีโก้มีข้อดีก็คือช่วยเป็นแรงผลักดันให้ตนนั้นประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ หรือเป็นคนที่คิดอย่างมีเหตุผลและมีหลักการที่ดี แต่เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียที่แอบแฝงอยู่คือ หากมี EGO มากเกินไปก็จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
ดังนั้นรูปภาพดังกล่าวจึงต้องการจะสื่อถึงความนิยมชมชอบที่มนุษย์มอบให้เขาโดยการกด Like นั้นถือเป็นแรงผลักดันให้คนๆนั้นมี Ego ทางด้านความคิด และการยกระดับตัวเองมากขึ้นว่าสิ่งนั้นดี ภาพนั้นสวย มีผู้คนมากมายหลงหรือชื่นชอบในตัวฉันเพราะฉันน่ารัก ทั้งๆที่สิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่เราให้ค่าของมันด้วยตัวของเราเอง เมื่อคนเรามีอีโกสูงขึ้น ก็จะเกิดความหย่อหยิ่ง และความหลงใหลในตัวเอง ทำให้คนเหล่านั้นแสดงความพฤติกรรมและมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างจากเดิม จนบางที Like ก็เปรียบเสมือนสุนัขที่รออาหารจากเจ้าของ ว่ามื้อนั้นเจ้าของจะให้มากหรือน้อย ถ้าได้มากก็จะรู้สึกดีใจและอยากได้เพิ่ม แต่ถ้าได้น้อยก็จะรู้สึกไม่พอใจ

2. HAPPINESS OF PACKET

satiric-illustrations-john-holcroft-7

อะไรคือความสุข ?

ความสุขจากการเป็นผู้รับหรือสุขจากการเป็นผู้ให้ ความสุขของคนเรานั้นมีระดับที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพและฐานะทางสังคม บางคนอาจจะมีความสุขจากการที่ได้นั่งทานอาหารร่วมกัน ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ และได้มอบความรักให้แก่คนในครอบครัวและคนที่เรารัก ซึ่งความสุขแบบนี้เรียกว่า ความสุขทางใจนั้นเอง หากเป็น Happiness of pacget นั้นจะเป็นการรวมกันของความสุขทางจิตใจและความสุขทางวัตถุมารวมกัน เช่น ความสุขจากการออกไปเที่ยว เพราะบางคนเชื่อว่าการที่เราได้ไปเที่ยวนั้นเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้ได้เปิดมุมมองและได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิต ความสุขจากการเล่นดนตรี ร้องเพลงหรือฟังเพลง นั้นช่วยลดความเครียด กระตุ้นแรงบันดาลใจในการทำงานหรือทำสิ่งต่างๆ ทำให้เลือดสูบฉีดได้ดีขึ้น และทำให้หงุดหงิดได้อยากขึ้น ความสุขจากการได้ซื้อของ คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเป็นเหมือนกันแต่เท่าที่สังเกตจะเห็นว่าความสุขจากการซื้อของนั้นคงต้องยกให้ผู้หญิงแล้วล่ะ เพราะได้ขึ้นชื่อว่านัก Shopping มือโปร ทำไมการซื้อของหนึ่งชิ้นหรือหลายชิ้นจึงถือว่าเป็นความสุข? ก็เพราะว่าหลายคนนั้นมีความอยาก และความฝันที่จะมีสิ่งของที่คุณชอบสักอย่างมาเป็นของตัวเอง เช่น รถยนต์ กีตาร์ เปียโน กระเป๋า นาฬิกา เป็นต้น และสุดท้ายคือคามสุขจากการกิน ก็คือเมื่อได้รับประทานอาหารที่อร่อย ถูกปากและดีนั้นก็จะทำให้มีความสุขอย่างน่าอัศจรรย์

3. หมอก็เหมือนเครื่องเล่น ถ้าไม่มีเงินก็เล่น(รักษา)ไม่ได้

satiric-illustrations-john-holcroft-13

หมอ ?

แพทย์หรือหมอนั้นเป็นอาชีพที่คนส่วนใหญ่ใฝ่ฝัน แต่รู้หรือไม่ว่าการที่แพทย์จะทำการรักษาคนหนึ่งคนนั้นจะต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ที่สะสมมามาใช้ในการรักษา ดังนั้นการที่คนไข้หนึ่งคนเดินเข้าไปหาหมอหนึ่งคนก็เท่ากับเราได้มอบแขนหนึ่งข้างให้กับเขาไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคนที่มีอาชีพเป็นหมอไม่ควรมองแค่ฉันอยากมีอาชีพนี้เพราะเงินดี แต่ให้มองควบคุมไปถึงศีลธรรม จรรยาบรรณด้วยว่า เรามีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ที่ได้รับการเจ็บป่วยอย่างเต็มที่ แม้คนๆนั้นจะไม่ใช่คนมีฐานะเราก็ควรจะรักษาให้เขาหายและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
หากพิจารณาจากรูปดังกล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพที่สะท้อนสังคมว่า การรักษาของแพทย์(บางคน)ในปัจจุบันนั้นจะรักษาได้อย่างเต็มที่หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก นั้นก็คือเงิน หากผู้ป่วยรายไหนที่มีฐานะก็จะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากคนไข้รายนั้นมีเงินน้อยก็อาจจะได้รับการรักษาที่ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อความข้างตันเป็นเพียงการตีความข้อภาพเท่านั้นแต่ถ้าจะมองให้ลึกลงไปก็จะมองได้อีกแง่หนึ่งคือไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม ก็มักจะมีเรื่องของเงินหรือรายได้เขามามีส่วนอยู่แล้ว เพราะเงินก็ถือเป็นส่วนที่ทำให้เรามีปัจจัย 4 นั้นก็คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค หากเราไม่มีทรัพย์หรือเงินมนุษย์ก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตได้เพราะขาดปัจจัย 4 นั้นเอง

4. ผลของบุหรี่หนึ่งมวน

satiric-illustrations-john-holcroft-9

เสียเงินไม่พอ ยังเสียสุขภาพด้วย..

ทำไมเธอถึงสูบบุหรี่? หลายคนที่โดนถามคำถามนี้ก็มักจะตอบว่า “สูบเพราะเครียด สูบเพราะเท่ห์ สูบแล้วทำให้สวยขึ้น สูบแล้วทำให้ผอมลงและอีกหลากหลายเหตุผล” แต่ถ้ามองลึกลงไป สิ่งที่ผู้สูบนั้นได้กล่าวมาเป็นเพียงข้อดีที่พวกเขานั้นรู้สึกได้ว่ามันดี แต่ไม่ได้มองข้อเสียระยะยาวเลยว่าสุขภาพของคุณนั้นจะดีหรือไม่เรามาดูข้อเสียของเจ้าบุหรี่กันว่ามีอะไรบ้าง
ข้อเสียหรือผลกระทบของบุหรี่นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะด้วยกันนั้นก็คือ ผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวกล่าวคือ ผลกระทบระยะสั้นคือ  ประสาทสัมผัสของการรับรู้กลิ่นและรส จะทำหน้าที่ได้ลดลง แสบตา น้ำตาไหล ขนอ่อนที่ทำหน้าที่พัดโบก เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมภายในหลอดลมเป็นอัมพาต หรือทำงานได้ช้าลด ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในปอด และในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้น มีกลิ่นตัวและมีลมหายใจที่เหม็น ส่วนผลกระทบระยะยาวนั้นก็คือ โรคมะเร็งปอด โรคเส้นเลือดหัวใจตีบทำให้หัวใจขาดเลือด มีความเสียงต่อการเกิดอาการหัวใจวาย ถุงลมโป่งพอง และทำใหสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
หากข้อเสียที่ผู้เขียนได้กล่าวมาข้างต้นนั้นมีมากกว่าข้อดี ผู้เขียนจึงขอแนะนำให้ลด ละ และเลิกสูบบุหรี่เถอะค่ะ เพราะนอกจากสุขภาพจะเสียแล้วยังเสียทรัพย์มากมาย สู้ว่าหากเราหาวิธีในการลดความเครียดอย่างฟังเพลง เล่นกีฬา หรือการเล่นดนตรีก็อาจจะช่วยลดความเครียดหรือความทุกข์ไปได้และไม่เสียสุขภาพอีกด้วย

5. ทาสสัญญา

satiric-illustrations-john-holcroft-14
หลายครั้งที่เรามักจะรับปากทำสิ่งๆหนึ่งให้กับคนอื่น หรือสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะ “ฉันจะ…..ฉันสัญญา” และเมื่อถึงเวลาก็มักจะทำตามสัญญาดังกล่าวไม่ค่อยได้เพราะมีเรื่องหรือเหตุการณ์มาทำให้เราไม่สามารถทำตามข้อตกลงนั้นๆได้ ซึ่งการทำตามสัญญานั้นถือว่าเป็นหน้าที่พื้นฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม เพราะการสัญญาหรือการรับปากนั้นก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของคนแต่ละคนที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง การรักษาสัญญาจะทำให้เกิด Self Protection หรือทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกัน มีความเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากขึ้น

6. OUTSOURCE OFFICE WORKS

satiric-illustrations-john-holcroft-10

OUTSOURCE คืออะไร?

Outsource หรือการจ้างพนักงานแบบชั่วคราวนั้นหมายถึง การว่าจ้างบริษัทหรือบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆเป็นการเฉพาะ เข้ามาทำงานนั้นๆแทนให้ทั้งหมดหรืออาจจะเป็นแค่เพียงในบางส่วน โดยที่สำคัญคือจะต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานในภาพรวมของทางบริษัทด้วย ซึ่งอาจจะว่าจ้างรับเป็นชิ้นๆงานหรือเซ็นสัญญาว่าจ้างกันเป็นระยะเวลาแบบรายเดือนหรือรายปีก็สามารถทำได้ตามแต่ที่จะตกลงกันระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ที่รับจ้าง ซึ่งปัจจุบันระบบการทำงานในลักษณะของ Outsource กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมสนใจในหมู่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า SME จนไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ประเภทข้ามชาติเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถตอบสนองและเข้าถึงความต้องการในรูปแบบการทำธุรกิจในสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของการทำธุรกิจด้วยการใช้ Outsource คือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายน้อยลง ไม่ต้องเสียเวลาฝึกพนักงานใหม่แถมยังเป็นพนักงานมืออาชีพทำให้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงได้มีบริษัทส่วนมากจึงจ้าง Outsoruce มากขึ้นเพราะว่าหากบริษัทนั้นๆไม่พอใจต่อการทำงานดังกล่าวก็สามารถเปลี่ยนบริษัทได้ทันที

7. เห็นแก่ตัว โดยการตัดต้นไม้ทำลายป่า

satiric-illustrations-john-holcroft-12

ต้นไม้ 1 ต้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

ต้นไม้นั้นนอกจากจะให้ร่มเงาแล้ว ยังช่วยคายออกซิเจนในช่วงกลางวัน ทำให้เราได้รับอากาศที่บริสุทธิ์อันมีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกและสภาวะโลกร้อน เป็นที่อยู่ของสัตว์น้อยใหญ่ พืช ผล สามารถนำมาเป็นอาหารและมาปรุงเป็นยารักษาโรค(บางชนิด)ได้ รากของต้นไม้ช่วยยึดผิวดินไม่ดินดินถล่ม และชะลอความแรงของน้ำ ลำต้นสามารถนำมาแปรรูปเป็น บ้าน และที่พักอาศัย ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายของต้นไม้นี้เองจึงทำให้มนุษย์ที่เห็นประโยชน์ของต้นไม้มาทำเป็นประโยชน์ของตัวเอง โดยการตัดต้นไม้เพื่อนำต้นไม้เหล่านั้นมาแปรรูปหรือส่งออกเพื่อให้เกิดรายได้โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาเรียกว่า Butterfly Effect เป็นผลกระทบที่เกิดจากสิ่งเล็กๆ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เช่นสภาวะโลกร้อนนั้นเอง

8. แรงดึงดูดจากแม่เหล็กตัวเดียวกัน

1959799_10152697953844425_4636827908628085984_n
แรงดึงดูดที่เราเห็นในภาพนั้นก็คือแม่เหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งแม่เหล็กขนาดใหญ่นั้นก็คือ บริษัทหรืองานที่เราจะต้องเดินเข้าไปทำในอนาคต ถ้ามองภาพกว้างๆก็คือหลังจากที่เรียนจบแล้วคนส่วนมากก็มักจะเดินไปในจุดเดียวกันคือ “หางานทำ” แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่จะคิดส่วนทางกับคนอื่นๆ

9. มนุษย์ก้มหน้า...สังคมก้มหน้า

satiric-illustrations-john-holcroft-6
“มนุษย์ก้มหน้า” ศัพท์ใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคของโซเชียลมีเดีย เพราะปัจจุบันคนทั่วไปจะมีโทรศัพท์หรือแท็บแล็ตกันคนละเครื่อง แล้วก็จะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างนั้น การกระทำเหล่านี้ทำให้เราสนใจบุคคลรอบข้างได้น้อยลง จากที่เมื่อก่อนเราจะหันหน้ามามองกันบ้าง ทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มหรือส่งยิ้มให้กันและกัน กล้าที่จะพูดคุยกันมากขึ้น แต่สมัยนี้ไม่กล้าพูดกันตรงๆแต่กลับบอกข้อความต่างๆผ่านทางการแชทบ้าง หรือการขึ้นสถานะบน Facebook บ้าง แทนที่จะยิ้มให้กันและกัน กลับยิ้มให้โทรศัพท์ แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือ แม้แต่เวลาข้ามถนนหรืออยู่กลางถนน ก็ยังจ้องมองไปที่จอภาพ มากกว่าที่จะระมัดระวังตัวจากภยันตรายรอบข้าง บางทีได้รับสัญญาณก็ไม่รับรู้ เพราะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ปฏิสัมพันธ์ที่อยู่บนโลกไซเบอร์ ไม่ใช่ปฏิสัมพันธ์กับโลกแห่งความเป็นจริง หรือไม่ได้อยู่กับสติ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากขึ้น เพราะการเล่นโทรศัพท์นั้นทำให้เรามีสติในการทำอีกสิ่งหนึ่งน้อยลง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบตามมาภายหลัง

10. สิ่งที่เห็นช่างต่างจากความเป็นจริง

satiric-illustrations-john-holcroft-2

เวลาคุณส่องกระจก คุณรู้สึกอย่างไร ?

เชื่อว่าเมื่อเรานั้นส่องกระจกก็อยากที่จะเห็นเรือนร่างที่สวยงามกันใช่มัย แต่สิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงมักจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหากคุณดื่มเบียร์ เขาว่ากันว่า “ดื่มเบียร์วันละแก้วจะทำให้มีสุขภาพที่ดี” งั้นเรามาดูข้อดีของการดื่มเบียร์กัน ข้อดีข้อแรกเลยคือ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ช่วยรักษาระดับความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และทำให้มีอายุยืน แต่ถ้าหากว่าดื่มมากเกินไปก็จะเกิดผลเสียต่อตับและทำให้อ้วนขึ้นอีกด้วย

11. เนื้ออันโอชะ

10714313_10152697953759425_9189779740701049442_o

การไม่มีไขมันเป็นลาภอันประเสริฐนั้นเองยังไงมาดูกัน!

ไขมันที่อุดตันอยู่ใต้ผิวหนังของเรานั้นมักจะเกิดขึ้นตามบริเวณหน้าท้อง ซึ่งน้ำหนักตัวของเราจะมากหรือน้อยพุงอันน้อยอันมากของคุณบอกได้เลยทีเดียว ข้อดีและข้อเสียของไขมัน
ไขมัน เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมนุษย์ เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายมีไขมันเป็นส่วนประกอบ วิตามินเอ ดี อี เคจำเป็นต้องใช้ไขมันในการดูดซึม นอกจากนี้ไขมันยังเป็นตัวช่วยห่อหุ้มอวัยวะและกระดูก ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยังช่วยให้ร่างกายมีความอบอุ่น ร่างกายสร้างไขมันบางชนิดไม่ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น การได้รับไขมันในอาหารบ้างจะทำให้รู้สึกอิ่มนาน และเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารด้วย
ในบางคนที่บริโภคอาหารที่มีไขมันสูงมากและบ่อยเกินไป ทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายมาก อาจส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ โดยเฉพาะการบริโภคไขมันชนิดไม่ดีร่วมกับการได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล ตัวอย่างเช่น กินของมัน ของหวานมาก แต่กินผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ น้อย ในทางตรงกันข้ามมีการศึกษาในกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น กลุ่มคนที่อาศัยอยู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่บริโภคไขมันสูง แต่เป็นไขมันที่ได้มาจากมะกอกและน้ำมันมะกอกเป็นส่วนใหญ่ ประชากรกลุ่มนี้มีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยมาก ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าไขมันที่บริโภคส่วนใหญ่เป็นไขมันชนิดที่ดี และอาหารอื่นๆ ที่พวกเขาบริโภคนั้นให้สารอาหารที่สมดุลกว่าด้วย ได้แก่ สารอาหารจากผัก ผลไม้ ธัญพืชเป็นหลัก เนื้อปลารองลงมา และเนื้อสัตว์อื่นๆไม่มากนัก ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารธรรมชาติที่มีคุณค่าทั้งสิ้น

12. คิดจะพัก คิดถึงการนอน

1601085_10152697954634425_2905787378560612020_n

รู้หรือไม่ว่าการนอนหลับก็เป็นอีกหนึ่งกิจวัตรที่คุณควรทำเป็นประจำ?

ทำไมผู้เขียนถึงบอกว่าการนอนหลับก็ถือว่าเป็นกิจวัตรประจำวันได้ด้วย นั้นก็เป็นเพราะว่ามนุษย์เรานั้นมักจะเขียนตารางเวลาว่าเรานั้นต้องทำอะไรบ้างในหนึ่งวันบางคนเขียนตารางงานหรือเป้าหมยตัวเองล้วงหน้าเป็นเดือนแต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่คุณไม่ได้เขียนลงไปในตารางเวลาของคุณ เพราะคุณคิดว่า “จะทำเมื่อไหร่ก็ได้” นั้นก็คือ “การนอน”
การนอนที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นควรนอนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมงและจะต้องเป็นเวลาช่วง 21.00-05.00 น. ทำไมถึงต้องนอนช่วงเวลานี้ด้วยล่ะจะหลับตอนกลางวันกลางคือก็เหมือนกัน? งั้นเรามาดูประโยชน์ของการนอนตรงเวลากันก่อนแล้วคุฯจะรู้ว่าทำไม ! เพราะว่าการนอนตรงเวลานั้นมีประโยชน์หลายประการ อาทิ ทำให้สุขภาพดี ไม่เป็นโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างโรคหัวใจ ความดันต่ำ โรคเบาหวาน ซึ่งล้วนเกิดจากการนอนไม่หลับต่อเนื่องเป็นเวลานานทั้งสิ้น การนอนหลับอย่างเพียงพอยังช่วยให้ฉลาดและความจำดีขึ้น เพราะการนอนหลับอย่างเต็มที่จะช่วยทำให้ไม่ลืม
สิ่งต่างๆ ที่กักเก็บข้อมูลมาทั้งวัน ทำให้สามารถทำสิ่งเหล่านั้นในวันต่อไปได้อย่างถูกต้องแม่นยำ แถมยังช่วยให้เข้าใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย และการนอนหลับอย่างเพียงพอยังทำให้มีรูปร่างที่ดีได้ เนื่องจากการนอนจะช่วยให้ระบบการเผาพลาญสามารถทำงานได้ดีนั่นเอง และที่สำคัญคือการนอนหลับในตอนกลางวันนั้นจะทำให้เราพักผ่อนได้ไม่สนิทเท่าที่ควรเพราะมักจะมีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ช่วงที่เรากำลังนอนหลับนั้นแทนที่ร่างกายเราจะได้พักผ่อนแต่กลับยังต้องทำงานเหมือนเดิม เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะมีอาการมึนหัว รู้สึกอยากนอนต่อ ไม่สดชื่นและมีอารมณ์ที่หงุดหงิดง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้นการนอนในช่วงตอนกลางคืนนั้นจึงมีประสิทธิภาพมากกว่านอนกลางวันนั้นเอง

13. ข้ออ้างของคนโสด

1560545_10152697953939425_1848052417967133560_n
“คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไม่นิดนึง” สงสัยประโยคนี้จะใช่ไม่ได้กับสาวโสดซะแล้ว เพราะว่าบางครั้งคนโสดอาจจะดูเด็กกว่าคนที่ไม่โสดล่ะสิ…เรามาดูกันว่าประโยชน์ของการเป็นคนโสดช่วยเพิ่มความสุขให้กับเขาและเธอนั้นได้อย่างไร?
ประโยชน์ของการเป็นคนโสดนั้นก็คือทำเป็นทุกอย่าง เก่งไปซะทุกเรื่อง หุ่นดีผอมเพรียวเพราะว่าคุณจะมีเวลาดูแลร่างกายของตัวเองมากขึ้น สามารถตามหาความฝันของตัวเองจนเจอได้เร็วกว่าคนมีคู่ สามารถแต่งตัวตามใจตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องแคร์ใคร นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกสองข้อที่บรรดาหนุ่มโสดและสาวโสดชอบกันมากที่สุดคือ เขาและเธอนั้นสามารถใช้เงินคนเดียวและยังสามารถตามใจตัวเองได้อีกด้วย

14. การรั่วไหลของข่าวในปัจจุบัน

1013641_10152697954489425_5587785789598478420_n
การรั่วไหลของข่าวสารในปัจจุบัน นับว่ามีให้เห็นอยู่มากมายนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นข่าวด้านการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวอาชญากรรม  ข่าวบันเทิงและข่าวกีฬา ซึ่งในปัจจุบันมีการปล่อยข่าวสารออกมาอย่างต่อเนื่องโดยผ่านสื่อต่างๆอาทิ หนังสือพิมพ์ ทางโทรทัศน์ และทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งแหล่งข่าวที่ถือว่าเกิดการรั่วไหลของข่าวสารในด้านดีและไม่ดีมากที่สุดนั้นก็คือข่างสารผ่านทางเพจเฟสบุ๊ค โดยเพจข่าวนั้นก็มักจะมาจากแหล่งตามสำนักต่างๆ หรือมาจากบล๊อคตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการเผยแพร่ข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนบ้างครั้งยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเรื่องราวที่นำมาเผยแพร่ต่อที่สาธารณะจริงหรือเท็จมากเพียงใด อีกทั้งการเผยแพรข่าวสารด้วยช่องทางยังเป็นการกระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เรามักจะเห็นได้บ่อยครั้งเลยครั้งเลยคือเมื่อมีการปล่อยข่าวผิดๆออกมาแล้วแหล่งข่าวต่างๆก็มักจะปล่อยข่าวแก้จนผู้ได้รับข่าวยังเราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเราควรจะเชื่อข่าวไหนกันดี !! โดยเฉพาะข่าวบันเทิงหรือข่าว Gossip ติดกระแสที่คนไทยนิยมอ่านและให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม แล้วผู้เขียนก็เขียนข่าวกันอย่างมันส์มือกันเลยที่เดียว
ที่มา: http://65blogs.com/entertainment/14-illustations-of-social-effect-in-twenty-century/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น